
ก่อนที่ทั้งสองจะสร้างความสัมพันธ์กัน สุนัขจิ้งจอกได้พูดกับเจ้าชายน้อยว่า "สำหรับฉัน เธอเป็นเพียงเด็กผู้ชายเล็กๆคนหนึ่ง ซึ่งเหมือนกับเด็กชายอื่นๆอีกแสนคนฉันไม่ต้องการเธอ และเธอไม่ต้องการฉัน เช่นเดียวกัน ฉันก้อเป็นสุนัขจิ้งจอกธรรมดาๆ ตัวหนึ่งเหมือนสุนัขจิ้งจอกอื่นๆอีกแสนตัว แต่ทว่า ถ้าเมื่อใดที่เธอคุ้นเคยใกล้ชิดกับฉัน เมื่อนั้นเราต่างก็ต้องการซึ่งกันและกัน เธอก็จะเป็นเด็กคนเดียวในโลกสำหรับฉัน และฉันก็จะเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเดียวในโลกสำหรับเธอด้วย"
"ถ้าเธอทำให้ฉันเชื่อง ชีวิตของฉันก็จะสดใสขึ้น ฉันจะเรียนรู้จักฝีเท้าของเธอผิดจากเสียงอื่นทั้งสิ้น เสียงฝีเท้าอื่นจะทำให้ฉันหลบลงใต้ดิน แต่เสียงฝีเท้าของเธอจะเรียกให้ฉันอกมาจากโพรงดินและเธอดูนั่นสิ ที่นั่นทุ่งข้าวสาลี ฉันไม่กินขนมปังหรอก ข้าวสาลีหาได้มีประโยชน์กับฉันไม่ นาข้าวสาลีจึงไม่ทำให้ฉันหวนระลึกถึงสิ่งใดเลย และนั่นเป็นสิ่งน่าเศร้า เธอมีผมสีทอง ฉะนั้น ถ้าเธอก่อความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งสอง ก็จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ยิ่ง ข้าวสาลีสีเหลืองอร่ามจะทำให้ฉันหวนระลึกถึงเธอ"
ด้วยคำขอของสุนัขจิ้งจอกเจ้าชายน้อยจึงหัดมันจนเชื่อง และเมื่อเวลาจากกันใกล้เข้ามา....
"อา...ฉันจะร้องไห้แล้ว"สุนัขจิ้งจอกกล่าว
"เป็นความผิดของเธอเอง ฉันไม่อยากทำให้เธอไม่สบายใจ แต่เธอเองอยากให้ฉันหัดให้เชื่อง"
"ใช่แล้ว" สุนัขจิ้งจอกกล่าว
"แต่แล้วเธอกลับร้องไห้" เจ้าชายน้อยติง
"แน่ละ"
"ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอก็ไม่ได้อะไรเลย"
"ฉันได้สิ"สุนัขจิ้งจอกกล่าว "ก็สีของข้าวสาลีไงล่ะ"
"ลาก่อน และนี่คือความลับของฉันมันเป็นเรื่องธรรมดามากเราจะเห็นอะไรได้เพียงด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตา" (ประโยคนี้ถือว่าเป็นประโยคสุดฮิตของเรื่องนี้เลยทีเดียว)
"ช่วงเวลาที่เธอเสียไปเพื่อดอกกุหลาบนั้นเอง ที่ทำให้ดอกกุหลาบของเธอมีความหมายสำคัญมากมายขนาดนี้"
“มนุษย์ลืมความจริงข้อนี่” สุนัขจิ้งจอกเอ่ย
“แต่เธอต้องไม่ลืมมัน เธอต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วย... เธอต้องรับผิดชอบต่อกุหลาบของเธอ....” เจ้าสุนัขจิ้งจอกกล่าวย้ำเตือนเจ้าชายน้อยก่อนที่ทั้งคู่จะบอกลากัน
ความสัมพันธ์สิ่งที่สวยงามในความคิดของเรา ความสัมพันธ์ทำให้สิ่งที่แสนจะธรรมดาเกิดมีความหมายพิเศษขึ้นมา เมื่อเรานึ

“ถ้าสร้างสัมพันธ์ขึ้นมาแล้วต้องรับผิดชอบความสัมพันธ์นั้น”
ประโยคนี้ทำให้เรากลับมานั่งคิดทบทวน การรับผิดชอบต่อความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นนั้นสำหรับเรามันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนที่ต้องทำอย่างพิถีพิถันพอสมควร คงจะจริงที่เจ้าสุนัขจิ้งจอกว่าจริ

ในชีวิตจริงเราคงไม่สามารถรับผิดชอบดูแลรักษาความสัมพันธ์ทุกความสัมพันธ์ไว้ให้ดีเท่าๆกันหมดได้ อาจจะมีบ้างที่ความสัมพันธ์ต้องจางหายไปเพราะความละเลย ขณะเดียวกันความสัมพันธ์มันก็คงไม่ได้ต้องการการดูแลและเอาใส่ใจเท่ากันทุกอัน มันมีระดับความสำคัญต่างๆกันอยู่ ไอ้เจ้าความสำคัญเนี่ย มันก็คงขึ้นอยู่กับการที่เราให้ความใส่ใจในความสัมพันธ์นั้นๆมากเท่าใด เหมือนเจ้าชายน้อยที่ใส่ใจดูแลดอกกุหลาบของเขา คอยรดน้ำ พรวนดิน หาโถแก้วไปครอบปกป้องดอกกุหลาบที่ไร้ทางสู้จากอันตรายรอบด้าน ทำที่บังลมป้องกันลมแรงๆที่อาจจะทำให้ลำต้นอันบอบบางหักได้ คอยฟังมันพร่ำบ่น หรือคุยโม้โอ้อวดตน ทั้งหมดนี้ก็เพราะมันคือกุหลาบเพียงดอกเดียวของเขา เราเองก็อยากจะเป็นดอกกุหลาบให้เจ้าชายน้อยมาคอยทะนุถนอม เอาใจใส่ รดน้ำพรวนดินให้ ในขณะที่บางครั้งเราก็ต้องการเป็นเจ้าชายน้อยที่คอยโอบอุ้มดอกกุหลาบ ทำตัวเป็นเกราะกำบังลมร้ายที่อาจทำให้ลำต้นบางๆนั้นบอบช้ำ
แต่ในตอนนี้ เรากำลังเป็นสุนัขจิ้งจอกของใครคนหนึ่ง เราแสดงออกว่าคนๆนั้นจะต้องรับผิดชอบที่ทำให้เราเชื่องเช่นนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าสักวันเราทั้งสองอาจจะต้องเอ่ยคำลาจากกัน หลายๆครั้ง ที่เราเรียกร้องให้เขาทำให้เรารู้สึกดี ต้องให้เวลากับเรา เราเคยคิดว่าเราต้องเป็นดอกกุหลาบ และ เขาต้องเป็นเจ้าชายน้อย เราคิดไปเองว่าเราไม่เหมือนกุหลาบดอกอื่น เราเป็นกุหลาบดอกเดียวของเขา โดยที่เราลืมคิดไปว่า เขาเต็มใจจะเป็นเจ้าชายน้อยของเราหรือเปล่า? ความจริงแล้วเราอาจจะเป็นแค่สุนัขจิ้งจอกที่นับเวลาถอยหลังเข้าสู่ห้วงยามแห่งการจากลา เรายังไม่พร้อมสำหรับเวลานั้น... แต่ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆเราจะยอมรับความจริงเหมือนกับสุนัขจิ้งจอกที่ว่า "เจ้าชายน้อยมีดอกกุหลาบของเขาอยู่แล้ว"
** เมื่อไม่นานมานี้ เราได้พูดถึงตุ๊กตาตัวเก่าของเราให้คนๆหนึ่งฟัง เราเปรียบเทียบเขากับตุ๊กตาเป็ดตัวนี้ แน่นอนเราไม่ได้ว่าเขาสกปรก ซอมซ่อ ไม่น่ารักน่ามองแต่อย่างใด หากเพียงแต่สำหรับเราแล้วเขาคือคนๆเดียวสำหรับเรา โดยที่เราเองก็แอบหวังอยู่ลึกๆว่าก็อาจจะเป็นดอกกุหลาบดอกเดียวของเขาด้วยเช่นกัน
"เธอต้องไม่ลืมนะ ว่ามันมาจากสุนัขจิ้งจอกสอง.." - หมาสอง
ReplyDelete